ประเภทราวกันตกกระจก
ราวกันตกกระจกแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยขึ้นอยู่กับการออกแบบ การติดตั้ง และการใช้งานที่เหมาะสมกับสถานที่นั้น ๆ โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้ดังนี้:
1. ราวกันตกกระจกแบบไม่มีกรอบ (Frameless Glass Railing)
• ใช้กระจกเป็นส่วนหลักโดยไม่มีกรอบโลหะล้อมรอบ
• ติดตั้งด้วยระบบสไปเดอร์ (Spider Fitting) หรือรางยึดกระจก (Base Channel)
• ดูทันสมัย โปร่งโล่ง เพิ่มความหรูหรา
• เหมาะสำหรับบ้านสมัยใหม่ คอนโด หรืออาคารที่ต้องการเน้นความโปร่งใส
2. ราวกันตกกระจกแบบมีกรอบ (Framed Glass Railing)
• มีกรอบโลหะล้อมรอบกระจก
• กรอบสามารถทำจากอลูมิเนียม สแตนเลส หรือเหล็ก
• ให้ความรู้สึกปลอดภัยสูง เนื่องจากโครงสร้างช่วยเพิ่มความแข็งแรง
• เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรง เช่น ระเบียงที่สูงมาก
3. ราวกันตกกระจกแบบมีราวจับ (Top Rail Glass Railing)
• มีราวจับด้านบนที่ทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น สแตนเลส ไม้ หรืออลูมิเนียม
• ราวจับช่วยเสริมความปลอดภัย และช่วยป้องกันขอบกระจกจากการกระแทก
• นิยมใช้ในอาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัย
4. ราวกันตกกระจกแบบยึดข้าง (Side Mounted Glass Railing)
• ยึดกระจกไว้ที่ด้านข้างของโครงสร้าง เช่น ผนังหรือพื้น
• ช่วยประหยัดพื้นที่และดูโปร่งโล่ง
• เหมาะสำหรับพื้นที่แคบ เช่น บันไดในบ้านหรืออาคาร
5. ราวกันตกกระจกแบบผสม (Combination Glass Railing)
• ผสมวัสดุต่าง ๆ เช่น กระจกและเหล็ก หรือกระจกและไม้
• ออกแบบเพื่อให้เข้ากับสไตล์ของพื้นที่
• ให้ความแข็งแรงและความสวยงามในเวลาเดียวกัน
6. ราวกันตกกระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass Railing)
• ใช้กระจกเทมเปอร์ที่มีความแข็งแรงและทนทานสูง
• ปลอดภัยในกรณีที่กระจกแตก เพราะจะไม่เป็นเศษแหลมคม
• เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการเน้นความปลอดภัย เช่น โรงแรมหรือศูนย์การค้า
7. ราวกันตกกระจกแบบลามิเนต (Laminated Glass Railing)
• ใช้กระจกลามิเนตที่ประกอบด้วยกระจก 2 ชั้นและแผ่นฟิล์มพลาสติกคั่นกลาง
• เพิ่มความปลอดภัยมากกว่ากระจกธรรมดา
• นิยมใช้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อาคารสูงหรือที่สาธารณะ
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับราวกันตกกระจกประเภทใด หรืออยากทราบว่าประเภทไหนเหมาะกับพื้นที่ของคุณ สามารถแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมได้ครับ!
Comments